วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

ข้อสอบอัตนัย 10 ข้อ(เรื่อง เราเตอร์)
1. เราเตอร์ คืออะไร
ตอบ เป็นอุปกรณ์ที่ทำงานในระดับชั้นเน็ตเวิร์กตามรูปข้างล่างนี้ เราเตอร์ทำงานร่วมกับฮาร์ดแวร์ในระดับเดทาลิงค์ได้หลายรูปแบบ***********************************************************************************
2. เราเตอร์มีหน้าที่อะไร
ตอบ จัดแบ่งเครือข่ายและเลือกเส้นทางที่เหมาะสมเพื่อนำส่งแพ็กเก็ต เราเตอร์จะป้องกันการบรอดคาสต์แพ็กเก็ตจากเครือข่ายหนึ่งไม่ให้ข้ามมายังอีกเครือข่ายหนึ*************************************************************************************
3. เราเตอร์จะรับข้อมูลเป็นแพ็กเก็ตเข้ามาตรวจสอบแอดเดรสผ่านไปทางไหน
ตอบ ปลายทาง*************************************************************************
4. อุปกรณ์ที่นิยมใช้ในการเชื่อมโยง คือ อะไร
ตอบ เราเตอร์************************************************************************
5. อะไรเป็นอุปกรณ์เชื่อมโยงเครือข่ายสองเครือข่ายที่แยกจากกัน
ตอบ บริดจ์
***************************************************************************
6. อุปกรณ์หลักในการเชื่อมโยงเครือข่าย คือ
ตอบ บริดจ์ เราเตอร์ และ สว**************************************************************************
7. อุปกรณ์เราเตอร์ เป็นยังไง
ตอบ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีในแบบเราติง ซึ่งถ้ามองย้อนหลังไปในอดีตนั้น มีบทบาทมากในการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์*************************************************************************
8. การป้องกันการกระจายสัญญาณ คืออะไร
ตอบ อุปกรณ์เราเตอร์ป้องกันการกระจายสัญญาณ ( Broadcast ) ข้ามเซกเมนต์ ซึงแตกต่างจากรีพีตเตอร์และบริดจ์*************************************************************************
9.เราเตอร์มีคุณสมบัติและประสิทธิภาพที่ดีในการเชื่อมต่อเครือข่ายอะไรบ้าง
ตอบ 1.ทำงานได้ทั้งแบบ รีพีตเตอร์ บริดจ์ และเกทเวย์2.แบ่งแยกเครือข่ายขนาดใหญ่ให้เป็นเครือข่ายย่อย ( Sub-network )
3.สามารถควบคุมการบรอดคาสต์ระหว่างเซกเมนต์ ( Broadcast Storm control )
4.สร้างระบบรักษาความปลอดภัยได้หลายแบบ ( Network Security Firewall )
5. ทำการค้นหาหมายเลขเครือข่ายได้ ( Address Resolution )6. ใช้ได้ทั้งเครือข่ายท้องถิ่นและเครือข่ายระยะไกล ( LAN & WAN )7.ไม่มีการเชื่อมต่อระหว่างจุดต่อจุดในการรับส่งแพคเก็ต ( Connection less )*****************************************************************************
10. เราเตอร์มีความสามารถใช้โปรโตคอลได้หลากหลาย สิ่งหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คืออะไร
ตอบ ซอฟต์แวร์จัดการระบบเครือข่าย ( Network Operating System )*****************************************************************************
ข้อสอบปรนัย 10 ข้อ(เรื่อง เราเตอร์)
1. อุปกรณ์หลักในการเขื่อมโยงเครือข่าย คืออะไร
ก. บริดจ์
ข. เราเตอร์
ค. สวิตซ์
ง.ถูกทุกข้อ********************************************************************************
2. เราเตอร์มีหน้าที่อย่างไร
ก. เชื่อมโยงเครือข่าย
ข. รับ-ส่งสัญญาณ
ค. จัดเเบ่งเครือข่ายและเลือกเส้นทางที่เหมาะสม
ง. ถูกข้อ ข
**********************************************************************
3.การป้องกันการกระจายสัญญาณ คืออะไร
ก.อุปกรณ์เราเตอร์ป้องกันการกระจายสัญญาณ ( Broadcast) ข้ามเซกเมนต์
ข. จัดเเบ่งเครือข่ายและเลือกเส้นทางที่เหมาะสม
ค.ซอฟต์แวร์จัดการระบบเครือข่าย ( Network Operating System)
ง.ถูกเฉพาะข้อ ค
********************************************************************
4. เราเตอร์มีคุณสมบัติและประสิทธิภาพที่ดีในการเชื่อมต่อเครือข่ายมีกี่คุณสมบัติ
ก.4 อย่าง
ข. 5 อย่าง
ค. 7 อย่าง
ง. 8 อย่าง*********************************************************************************** 5. เราเตอร์คืออะไร
ก. จุดอ่อนของอินเทอร์เน็ต. นักวิเคราะห์จากการ์ตเนอร์ว่า ... ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยากที่แฮกเกอร์จะหลอกใช้เราเตอร์ คือทั้งหลอกและใช้
ข.ฮาร์ดแวร์ชนิดหนึ่ง ที่คุณสามารถใช้ในการเชื่อมต่อ หรือ "สร้างเครือข่าย" ให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์ และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ
ค. เราเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่ซับซ้อนกว่าบริดจ์ ทำหน้าที่เชื่อมต่อ LAN หลายๆ เครือข่ายเข้าด้วยกัน
ง.ถูกทุกข้อ*********************************************************************
6. อุปกรณ์เราเตอร์ เป็นยังไง
ก. เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีในแบบเราติง ซึ่งถ้ามองย้อนหลังไปในอดีตนั้น มีบทบาทมากในการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ข. ฮาร์ดแวร์ชนิดหนึ่ง ที่คุณสามารถใช้ในการเชื่อมต่อ หรือ "สร้างเครือข่าย" ให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์ และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ
ค. เราเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่ซับซ้อนกว่าบริดจ์ ทำหน้าที่เชื่อมต่อ LAN หลายๆ เครือข่ายเข้าด้วยกัน
ง. จุดอ่อนของอินเทอร์เน็ต. นักวิเคราะห์จากการ์ตเนอร์ว่า ... ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยากที่แฮกเกอร์จะหลอกใช้เราเตอร์ คือทั้งหลอกและใช้***************************************************************************
7. เราเตอร์จะรับข้อมูลเป็นแพ็กเก็ตเข้ามาตรวจสอบแอดเดรสผ่านไปทางไหน
ก. กลางทาง
ข. ปลายทาง
ค. ต้นทาง
ง.ถูกทุกข้อ
****************************************************************************
8.อะไรเป็นอุปกรณ์เชื่อมโยงเครือข่ายสองเครือข่ายที่แยกจากกัน
ก. สวิตซ์
ข. เราเตอร์
ค. บริดจ์
ง. ไม่มีข้อถูก****************************************************************************
9. อุปกรณ์ที่นิยมใช้ในการเชื่อมโยง คือ อะไร
ก. สวิตซ์
ข. เราเตอร์
ค. บริดจ์
ง. ไม่มีข้อถูก*****************************************************************************
10. ข้อดีของการใช้เราเตอร์
ก. ในการใช้เราเตอร์เชื่อมต่อเครือข่ายเข้าด้วยกัน ปริมาณการส่งข้อมูลของแต่ละเครือข่ายย่อยจะแยกจากกันโดยเด็ดขาด
ข.มีความคล่องตัวในการทำงานสูง เนื่องจากสามารถทำงานร่วมกับโทโพโลยีได้ทุกชนิด
ค.สามารถกำหนดความสำคัญในการส่งข้อมูลได้ เช่น สามารถกำหนดได้ว่าหากข้อมูลที่ส่งไปอยู่ในรูปแบบของโปรโตคอลที่มีลำดับความสำคัญสูง ก็สามารถลัดคิวส่งออกไปได้ก่อน
ง.ถูกทุกข้อ*******************************************************************************

วันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

เรียนวันอังคารที่ 22 กรกฎาคม 2551

การต่อสาย LAN
การทำสายสัญญาณ เพื่อใช้เองในบ้านหรือในสำนักงานขนาดเล็กก็ได้ วิธีการก็ไม่มีอะไรมากอย่างแรกเลยก็จัดเตรียมเรื่องของอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จะต้องใช้ให้ครบถ้วนก่อนจะได้ไม่ต้องวิ่งหาตอนติดตั้ง โดยอุปกรณ์โดยทั่วไปก็มี สายสัญญาณหรือ UTP Cable หรือที่บ้านเราเรียกกันว่าสาย LAN แล้วก็หัว RJ-45 (Male), Modular Plug boots หรือตัวครอบสาย หากว่ามี Wry Marker แล้วก็จะมีเหมือนกันเพราะว่าจะช่วยในการทำให้เราจำสายสัญาณได้ว่าปลายด้านไหนเป็นด้านไหน ซึ่งโดยส่วนมากแล้วก็จะเป็นหมายเลข ไว้ใส่ในส่วนปลายทั้งสองด้านเพื่อให้ง่ายในการตรวจสอบระบบสายสัญญาณ คีมแค้มสายสัญญาณ หรือ Crimping Tool, มีดปอกสาย หรือ Cutter
เอาละมาว่ากันเลยดีกว่าก่อนอื่นก็หยิบมีดหรือ Cutter อันเล็ก ๆ มาอันหนึ่งแล้วก็เล็งไปที่นิ้วจากนั้นก็ตัดนิ้วทิ้งไปซะ แล้วค่อยเอาหัว RJ มาต่อกับนิ้วแทน เท่านี้คุณก็สามารถเชื่อมต่อตัวคุณเองเข้าสู่ระบบเครือข่ายด้วยความไวสูงสุดถึง 100 มิลลิลิตรต่อนาที บางทีอาจจะเป็น Full Duplex Mode อีกต่างหาก ล้อเล่น ๆ เอาละนะใช้มีดปอกสายสัญญาณที่เป็นฉนวนหุ้มด้านนอกออกให้เหลือแต่ สายบิดเกลียวที่อยู่ด้านใน 8 เส้นแล้วก็จะเห็นด้ายสีขาว ๆ อยู่ให้ตัดทิ้งได้ โดยการปอกสายสัญญาณนั้นให้ปอกออกไว้ยาว ๆ หน่อยก็ได้ประมาณสัก 1 เซ็นครึ่งก็น่าจะได้นะตามตัวอย่างดังรูปข้างล่างนี้จากนั้นก็ให้ใส่ Modular Plug boots เข้ากับสาย UTP ด้านที่กำลังจะต่อกับหัว RJ-45
การ Cross สาย Lan
ของฝากวันนี้บอกเล่าเรื่องเกี่ยวกับระบบสายสัญญาณให้ฟังแล้วกันนะ หลายๆ คนคงเคยทำระบบเครือข่ายมาบ้าง และคงสงสัยอยู่ว่าบางครั้งเขาใช้สายธรรมดา บางครั้งใช้สาย Cross บ้าง แล้วสองสายนี้แตกต่างกันอย่างไรบ้าง ลองมาดูลักษณะการเชื่อมต่อภายในของสาย UTP 8 เส้นที่ว่าก่อนดีกว่าว่าเป็นยังไงบ้าง

ถ้าเป็นการเข้าสายแบบธรรมดาหรือที่เขาใช้กันทั่วไป จะเป็นการต่อแบบที่ 1 ไป และ 2 ไป 2 จนถึง 8 ส่วนการไล่สีก็จะมีเป็นมาตรฐานกลาง ๆ ในการ ใช้ดังที่แสดงอยู่นั่นแหละ อันนี้เขาจะใช้เชื่อมต่อระหว่าง เครื่องคอมพิวเตอร์มาที่ HUB หรือ Switchingส่วนข้างล่างนี้เป็นการเข้าสายที่เราเรียกว่า Cross Cable นั่นเอง สังเกตว่าจะเป็นการสลับระหว่าง 1,2,3,6 ซึ่งเขา มักจะใช้ในกรณีของเชื่อมต่อระหว่าง HUB-to-HUB โดยที่ไม่ผ่านทาง Uplink Port คือ ต่อจาก Port ธรรมดาไป Port ธรรมดา เขาต้องใช้สาย Cross และเราสามารถนำมาดัดแปลง ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์สองเครื่องที่ต้องการต่อเป็น เครือข่ายโดยผ่านทางสาย UTP ได้โดยการใส่ LAN Card ลงที่เครื่องทั้งสองแล้วใช้สาย Cross ในการเชื่อมต่อเครื่อง ทั้งสองให้เป็นระบบเครือข่ายโดยไม่ต้องใช้ HUB ก็ได้ส่วนสายอีก 4 เส้นที่เหลือคือ 4,5,7,8 ก็ไม่ต้องไปสลับอะไรกับมันก็ได้ เพราะว่าไม่ได้ใช้ในการส่งสัญญาณนะจ๊ะ..รูปแสดงคีมหรือ Crimping Tool ที่จะใช้ในการแค้มหัว อันนี้เป็นของยี่ห้อ Amp ราคาในตลาดก็คงประมาณ 5,000-6,000 บาทมั้งแต่ถ้าไม่ได้ใช้เยอะก็แนะนำให้เดินซื้อแถวพันทิพย์ หรือ ศูนย์คอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ทุกมุมในปัจจุบันนี้ ถ้าเอาแบบพอใช้ได้ราคาก็ประมาณ 400-800 บาท คุณภาพก็พอใช้ได้นะ ผมก็เคยซื้อมาใช้หลายอันแล้ว แต่ของ Amp นี้ค่อนข้างน่าใช้และชัวร์กว่าเยอะในการเข้าสาย แต่ราคานี่สิผมว่ามันไม่ค่อยจะน่าสนเท่าไหร่ ถ้าเราไม่มีอาชีพในการทำงานด้านนี้เฉพาะหรือ ต้องมีการเดินระบบสายสัญญาณบ่อย ๆรูปของคีมหรือ Crimping Tool ด้านหน้าที่จะใช้แค้มสายหลังจากที่ปอกสายเสร็จแล้วก็ให้ทำการแยกสายทั้ง 4 คู่ที่บิดกันอยู่ออกเป็นคู่ ๆ ก่อนโดยที่ให้แยกคู่ต่าง ๆ ตามลำดับต่อไปนี้ ส้ม-ขาวส้ม ---> เขียว-ขาวเขียว ---> น้ำเงิน-ขาวน้ำเงิน ---> น้ำตาล-ขาวน้ำตาล เพื่อแบ่งสายออกเป็นหมวดหมู่ใหญ่ ๆ ก่อน จากนั้นจึงค่อยมาทำการแยกแต่ละคู่ออกมาเป็นเส้น โดยให้ไล่สีดังนี้ขาวส้ม ---> ส้ม ---> ขาวเขียว ---> น้ำเงิน ---> ขาวน้ำเงิน ---> เขียว ---> ขาวน้ำตาล ---> น้ำตาลซึ่งสีที่ไล่นี้เป็นสีที่ใช้เป็นมาตรฐานในการเชื่อมต่อ ซึ่งจริง ๆ แล้วการเข้าสายมีมาตรฐานการไล่สีอยู่หลัก ๆ ก็ 2 แบบแต่ในที่นี้ผมเอาแบบนี้แล้วกันเพราะว่าส่วนมากแล้วเขาจะใช้วิธีการไล่สีแบบนี้ หลังจากจัดเรียงสีต่าง ๆ ได้แล้วก็ให้จัดสายให้เป็นระเบียบ ให้พยายามจัดให้สายแต่ละเส้นชิด ๆ กัน ดังรูปหลังจากนั้นให้ใช้คีมตัดสายสัญญาณที่เรียงกันอยู่นี้ให้มีระบบปลายสายที่เท่ากันทุกเส้น โดยให้เหลือปลายสายยาวออกมาพอสมควร จากนั้นก็ให้เสียบเข้าไปในหัว RJ-45 ที่เตรียมมา โดยให้หันหัว RJ-45 ดังรูปจากนั้นค่อย ๆ ยัดสายที่ตัดแล้วเข้าไป โดยพยายามยัดปลายของสาย UTP เข้าไปให้สุดจนชนปลายของช่องว่าในหัว RJ-45 เลยจุดสำคัญอีกอย่างหนึ่งในการเชื่อมต่อสายสัญญาณในช่วงนี้ก็คือต้องยัดฉนวนหุ้มที่หุ้มสาย UTP นี้เข้าไปในหัว RJ-45 ด้วย โดยพยายามยัดเข้าไปให้ได้ลึกที่สุดแล้วกัน เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการหักงอของสายง่าย โดยให้ยัดเข้าไปให้ได้ดังรูปข้างล่างนี้แล้วก็นำเข้าไปใส่ในช่องที่เป็นช่องแค้มหัวของ RJ-45 ในคีมที่จะใช้แค้มหัว หรือ Crimping Tool ให้ลงล็อกของคีมพอดี จากนั้นก็ให้ทำการกดย้ำสายให้แน่น เพื่อให้ Pin ทีอยู่ในหัว RJ-45 นั้นสัมผัสกับสายทองแดงที่ใส่เข้าไป บรรจงนิดหนึ่งนะครับในช่วงนี้ เพราะว่าเป็นช่วงหัวเลียวหัวต่อของชีวิตสายสัญญาณของคุณเลยแหละ เท่าที่ประสบการในการเข้าสายสัญญาณของผม ถ้าเป็นไอ้เจ้า Amp นี่ก็ไม่ต้องออกแรงมากเท่าไหร่ก็ OK ได้เลย แต่ถ้าเป็นแบบของทั่ว ๆ ไปก็คงต้องออกแรงกดกันนิดหนึ่งแล้วกันอ้า...ท้ายที่สุดก็จะได้ปลายสัญญาณของระบบที่คุณต้องการดังกล่าวดังรูป ที่นี้ก็ไปทำอย่างที่ว่ามานี้อีกครั้งหนึ่งที่ปลายสายอีกด้านหนึ่ง แต่อย่าหลงเข้าใจผิดว่านี่เป็นสาย Cross นะ เพราะว่าสาย Cross นั้นคุณต้องทำการสลับสายสัญญาณที่เข้านี้ ลองไปดูหัวข้อ Tip of the Day นะผมแนะนำการเข้าสาย Cross ไว้ที่นั่นแล้ว เพราะว่าการเข้าสายทั้งสองแบบนี้การไล่สีของสายไม่เหมือนกัน แตกต่างกันนิดหน่อย ส่วนสาย Cross เราสามารถนำเอาไปเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ 2 เครื่องให้เป็นระบบเครือข่ายได้โดยที่ไม่ต้องใช้ HUB ได้เลย แต่ได้แค่ 2 เครื่องเท่านั้น ส่วนสายแบบที่ต่อตรง ๆ นั้นจะใช้เชื่อมต่อจากเครื่องคอมพิวเตอร์มายัง HUB

มาตรฐานการเข้า RJ-45

Pin# Signal EIA/TIA 568A EIA/TIA 568B11

Transmit+ ขาวเขียว ขาวส้ม2
Transmit+ เขียว ส้ม3
Receive+ ขาวส้ม ขาวเขียว4
N/A น้ำเงิน น้ำเงิน5
N/A ขาวน้ำเงิน ขาวน้ำเงิน6
Receive- ส้ม เขียว7
N/A ขาวน้ำตาล ขาวน้ำตาล8
N/A น้ำตาล น้ำตาล

ออกข้อสอบ 20 ข้อ เรื่องอีเทอร์เน็ตและPing

1. อีเทอร์เน็ต คืออะไร
ก. อีเทอร์เน็ต (Ethernet) หมายถึง ความหมายที่มีอยู่ทั่วไปของอีเทอร์เน็ต ซึ่งมีหลากหลายมาตรฐาน อีเทอร์เน็ตพัฒนาขึ้นโดยบริษัท Xerox
ข.อีเทอร์เน็ต (Ethernet) หมายถึง ความหมายที่มีอยู่ทั่วไปของอีเทอร์เน็ต
ค.อีเทอร์เน็ต (Ethernet) หมายถึง อีเทอร์เน็ตนั้นเหมาะกับงานที่ต้องการรับ/ส่งข้อมูล ในอัตราความเร็วสูงเป็นช่วงๆ
ง.อีเทอร์เน็ต (Ethernet) หมายถึง เครือข่าย LAN ที่ใช้กันอยู่ทั่วไป ระบบที่ใช้อีเทอร์เน็ตนั้นเหมาะกับงานที่ต้องการรับ/ส่งข้อมูล ในอัตราความเร็วสูงเป็นช่วงๆ
เฉลย ข้อ ก

*************************************************************************
2. ประวัติโดยย่อของอีเทอร์เน็ตโดยพัฒนามาจากระบบใด
ก.พัฒนาเทคโนโลยีเครือข่ายที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานบนโทโพโลยีแลน
ข.พัฒนาเทคโนโลยีเครือข่ายที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานบนโทโพโลยีแบบบัส (Bus Topolofy)
ค.พัฒนาเทคโนโลยีเครือข่ายที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานบนโทโพโลยีแบบแวน
ง.พัฒนาเทคโนโลยีเครือข่ายที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานบนโทโพโลยีแบบแมน
เฉลยข้อ ข

*************************************************************************
3.อีเทอร์เน็ตทำงานอย่างไร (How Ethernet works)
ก.การนำข้อมูลแบ่งออกเป็นส่วน ๆที่เรียกว่า “แพ็กเกต
ข.ให้คอมพิวเตอร์มีการรับส่งข้อมูลบนสายเคเบิลที่ใช้งานร่วมกัน
ค.ทั่ว ๆ ไป โดยจะต้องตัดสินใจว่าจะทำการส่งข้อมูลผ่านสายอย่างไร
ง.ผู้ออกแบบเครือข่ายทั่ว ๆ ไป โดยจะต้องตัดสินใจว่าจะทำการส่งข้อมูลผ่านสายอย่างไร และให้คอมพิวเตอร์มีการรับส่งข้อมูลบนสายเคเบิลที่ใช้งานร่วมกันได้อย่างไร
เฉลยข้อ ง

*********************************************************************************
4.การเชื่อมต่อเครือข่ายอีเทอร์เน็ต (Implementation of Ethernet)เป็นที่ทราบกันแล้วว่า อีเทอร์เน็ตนั้นใช้วิธีการ
ก.ส่งสัญญาณแบบเบสแบนด์ ซึ่งจะใช้ช่องทางการสื่อสารเพียงช่องทางเดียวด้วยเทคนิควิธี CSMA/CD เป็นกลไกในการจัดการกับสายส่ง
ข.เพื่อให้แต่ละโหนดสามารถแชร์การใช้งานสายเคเบิลที่มีอยู่เส้นเดียวร่วมกันได้ ตามมาตรฐาน 802.3 หรืออีเทอร์เน็ต
ค.จะใช้ช่องทางการสื่อสารเพียงช่องทางเดียว
ง.เพื่อให้แต่ละโหนดสามารถแชร์การใช้งานสายเคเบิลที่มีอยู่เส้นเดียวร่วมกันได้ ตามมาตรฐาน 802.3 หรืออีเทอร์เน็ต
เฉลยข้อ ก

*************************************************************************************
5. IEEE 802.2 ถูกออกแบบใน LLC ไม่ต้องการให้เครื่องรู้จักกับอะไร
ก. physical
ข. MAC sub layer
ค. Bus topology
ง. MAC sub layer กับ physical layer
เฉลยข้อ ง

********************************************************************************
6. 10Base-T หมายถึง อย่างไร
ก.10 หมายถึง 10 Mbps ส่วน T หมายถึง Twisted Pair ลักษณะนี้แสดงว่า เป็นระบบเครือข่าย Ethernet ที่ใช้สาย Twisted Pair เป็นสื่อในการส่งสัญญาณ
ข.10 หมายถึง 10 Mbps ส่วน T หมายถึง Twisted Pair ลักษณะระบบเครือข่าย
ค.10 หมายถึง 10 Mbps ส่วน T หมายถึงเป็นอุปกรณ์ที่ใช้เป็นสื่อในการรับส่งสัญญาณบน 10Base-T
ง.10 หมายถึง 10 Mbps ส่วน T หมายถึงว่า เป็นระบบเครือข่าย Ethernet ที่ใช้สาย Twisted Pair เป็นสื่อในการส่งสัญญาณ
เฉลยข้อ ก

*******************************************************************************
7.ฟาสต์อีเทอร์เน็ต (Fast Etherner)หรือมักเรียกว่า อีเทอร์เน็ตความเร็วสูง จัดเป็นเวอร์ชั่นหนึ่งของอีเทอร์ซึ่งมีความเร็วที่เท่าใด
ก.2,500 เมตร
ข.100เท่า
ค.10 Mbps ถึง 10 เท่า
ง. 100 เมกะบิตต่อวินาที
เฉลยข้อ ง

*********************************************************************************
8. 100BASE-TX ใช้วิธีการเข้ารหัสแบบ 4B/5B ทำให้เกิดเป็นกระแสของข้อมูลแบบ อนุกรมความเร็วที่
ก.125 MHZ
ข.123 MHZ
ค.124 MHZ
ง. 126 MHZ
เฉลยข้อ ก

***************************************************************************
9.กิกะบิตอีเทอร์เน็ต (Gigabit Ethernet)การเปลี่ยนจาก 10 Mbps ไปเป็น 100 Mbps ได้ส่งผลให้ทางคณะทำงาน IEEE 802.3 ได้มีการออกแบบกิกะบิตอีเทอร์เน็ตที่รองรับความเร็ว 1,000 Mbps หรือ
ก.2 Gbps โดยใช้ยุทธศาสตร์เหมือนเดิม
ข. 1 Gbps โดยใช้ยุทธศาสตร์เหมือนเดิม
ค.3 Gbps โดยใช้ยุทธศาสตร์เหมือนเดิม
ง.4Gbpsโดยใช้ยุทธศาสตร์เหมือนเดิม
เฉลยข้อ ข

********************************************************************************
10.100BASE-Txยังครอบคลุมคุณลักษณะมาตรฐานของ
ก.M
ข.MIII
ค.MI
ง.MII
เฉลยข้อ ง

**************************************************************************************ข้อสอบคำสั่ง Ping
1. หากต้องการดูสถิติในระบบ,สถานะ,protocol ควรใช้คำสั่งใด
ก. ping
ข. ipconfig
ค. netstatsk
ง. ARP
เฉลยข้อ ค

***************************************************
2. คำสั่ง tracert ใช้ตรวจสอบอะไร
ก. ตรวจสอบการเชื่อมต่อ
ข. ตรวจสอบการเดินทางไปยังปลายทาง
ค. ดูสถิติในระบบ,สถานะ,protocol
ง. ค่าต่าง ๆ ภายในเครื่อง
เฉลยข้อ ข

**************************************************
3. คำสั่ง ping ใช้ตรวจสอบอะไร
ก. ตรวจสอบการเชื่อมต่อ
ข. ตรวจสอบการเดินทางไปยังปลายทาง
ค. ดูสถิติในระบบ,สถานะ,protocol
ง. ค่าต่าง ๆ ภายในเครื่อง
เฉลยข้อ ง

***********************************************************
4.คำสั่ง ARP ใช้ตรวจสอบอะไร
ก. ตรวจสอบการเชื่อมต่อ
ข. ดูหมายเลข card lan
ค. ดูสถิติในระบบ,สถานะ,protocol
ง. ค่าต่าง ๆ ภายในเครื่อง
เฉลยข้อ ข

***********************************************************
5.หากตรวจสอบ ping แล้ว ขึ้น ภาษาต่างดาว เพราะเหตุใด
ก. เครื่องคอมพิวเตอร์ปลายทาง ไม่มีตัวตน หรือยังไม่ได้เชื่อมต่อกับเครือข่าย
ข. คีย์ข้อมูลผิด
ค. คอมพัง หรือคอมพิวเตอร์โดนไวรัส
ง. ถูกเฉพาะ ข , ค
เฉลยข้อ ก

***************************************************************
6. ข้อใดเป็นวิธีการใช้คำสั่ง
ก. เลือก Start -->Programs -->MS-DOS Prompt
ข. เลือก Programs --> Start -->MS-DOS Prompt
ค. เลือก MS-DOS Prompt -->Programs --> Start
ง. ผิดทุกข้อ
เฉลยข้อ ก

**********************************************************************
7. Ping /? คืออะไร
ก. คอมพัง หรือคอมพิวเตอร์โดนไวรัส
ข. ดูสถิติในระบบ,สถานะ,protocol
ค. เครื่องคอมพิวเตอร์ปลายทาง ไม่มีตัวตน หรือยังไม่ได้เชื่อมต่อกับเครือข่าย
ง. ตรวจสอบ option ของ ping
เฉลยข้อ ง

******************************************************************
8. การ ping เป็นการทดสอบอะไร
ก. เครื่องคอมพิวเตอร์ปลายทาง ไม่มีตัวตน หรือยังไม่ได้เชื่อมต่อกับเครือข่าย
ข. ทดสอบว่าเส้นทางสื่อสารจากเครื่องที่ใช้อยู่ไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นในเครือข่าย ว่ายังใช้การได้อยู่หรือไม่
ค. ดูสถิติในระบบ,สถานะ,protocol
ง. ARP
เฉลยข้อ ข

******************************************************************************
9. หากต้องการค้นคำสั่งอื่นๆ ที่น่าสนใจ ต้องใช้คำสั่งใหน
ก. ping
ข. ARP
ค. tracert
ง. ipconfig/all
เฉลยข้อ ง

*****************************************************************************
10. ข้อใดเป็นค่าของ ping
ก. Ping 10.10.2.138
ข. Ping 10:10:2:138
ค. Ping 10,10,2,138
ง. Ping 10;10;2;138
เฉลยข้อ ก